วันนี้ดูรายการตาสว่าง แต่ก็ไม่ได้เริ่มดูตั้งแต่ต้นแต่ก็พอจะตีความออกว่าเป็นเรื่องอะไร จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อมีอะไรกับลูกตัวเอง แต่ถ้าจะบอกว่าพ่อเฉยๆก็ไม่ได้ เพราะมันมีทั้งเรื่องพ่อ-แม่ และลูก มีความสัมพันธ์กันอย่างชู้สาว เรื่องแบบนี้ก็ไม่ค่อยเห็นได้เห็นนักข่าวออกมาตีความเท่าไร ก็เพิ่งเห็นวันนี้ละเอาทั้งหมอครูที่พบเหตุการนั้นๆ มาช่วยกันตีความ ไม่ใช่สิใช่คำผิด มาช่วยกันแสดงความคิดเห็น และช่วยกันแก้ปัญหากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นมานานแล้วนะผมว่า ถ้าใครเล่นบอร์ดใต้ดินก็คงจะเคยเห็นบทความกิเลสโลกีทั้งหลาย ไม่ก็หนังสือปกขาวที่เรียกกัน ก็คงจะเคยเห็นผ่านตาและลองอ่านมาบ้าง ก็คงจะเคยเห็นเรื่องแนวครอบครัวเลวๆหรือพอใจกับบางท่านพอสมควร
ก็ท้าวความมาพอสมควรและไม่อยากให้มันยาวไปชนจนน่าเบื่อ ผมอยากจะบ่นเรื่องพวกนี้ซะหน่อยก็เท่านั้น เพราะสำหรับคนที่มีความคิดเห็นก็ว่ากันมา หลังจากที่ผมดูรายการจบ ก็อยากจะแสดงออกทางอารมณ์ซะหน่อย โดยจะมาปล่อยที่นี่แหละ ปัญหาที่ผมได้ฟังจากรายการก็จะมีแนวว่า เอาแนวลูกสาวก่อนละกัน สิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการอันเลวร้ายกับลูกสาวก็จะเป็นที่ว่า ความเมาก่อให้เกิดกิเลสโลกี แล้วลูกสาวก็โดนพ่อแท้หรือพ่อเลี้ยงบังคับข่มขู่จนไปถึงข่มขืนลูกสาว ที่ไม่รักแล้ว เหตุต่อไปที่ได้ฟังก็น่าจะเป็นที่ลูกสาวไปเสียตัวให้ชายอื่น โดยที่พ่อรู้แต่ไม่ทราบว่าเห็นไหม พูดไปงั้น แล้วพ่อก็คิดว่าลูกสาวเราไปมีอะไรกับคนอื่นได้แล้วทำไมเราจะมีอะไรกับลูกกูไม่ได้ (ให้ตายเถอะ) มันก็เป็นเหตุได้ เรื่องลูกสาวก็ไปเท่านี้เดี๋ยวคิดมามากกัน
ส่วนลูกชายนั้นผมจะว่าไปแนวที่ฟังมาละกันเรื่องนี้ก็ไม่เคยพบเจอ ที่ฟังมาเรื่องลูกชายกับพ่อนั้น โดยที่พ่อมีความเครียดหรืออะไรซักอย่างมั้ง และเกิดอาการฉันชนะคนอื่นไม่ได้ แต่ฉันต้องชนะลูกฉันได้ ก็เลยทำให้ลูกอยู่ในภายใต้ความคิดของตน (พักสักครู่ดูหนังซักหน่อย) ต่อ และก็อย่างอื่นผมดูไม่ทัน จบไปสำหรับเรื่อง ลูกชาย
ต่อไปผมจะว่าภาครวมของลูกชายและลูกสาวหรือครอบครัวเลยดีกว่า จะได้รู้ๆกันไป ในความคิดอาจจะขัดแย้งไม่ว่ากันเรื่องแบบนี้ ความสัมพันธ์แบบนี้ผมไม่โทษใคร แยกออกจากการข่มขืนนะนี่คือการสมย่อมที่ผมจะพูดต่อไปนี้ การสมย่อมภายในครอบครัวนั้นผมว่า เรื่องมันเกิดง่ายและยืนยาว เป็นความสัมพันธ์ที่ดีกว่านอกกบ้าน แต่มันผิดศิลธรรมก็ทราบกันดี แต่เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใครการสมย่อมก็ เป็นเรื่องของแต่ละคน ผมไม่ขอพูดละมันจะขัดแย้งไปเปล่าๆ
มาพูดถึงปัญหาที่ตามมาสำหรับการที่เด็กโดนข่มขืนกันดีกว่าผมบอกว่า เด็กที่โดนครอบครัวข่มขืนมันเลวร้ายยิ่งกว่าโจรบ้านนอกข่มขืนซะอีก เพราะบ้านเราก็อยู่นี่ เป็นที่ๆเราคิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่แล้วทำไมมันเกิดเหตุการเลวร้ายแบบนี้ในบ้านเราได้ ปัญหาแนวนี้เป็นการแก้ยากที่สุด เพราะเด็กจะบอกใครก็คิดว่า เป็นเด็กอกตัญญู เพราะพ่อที่ข่มขืนบอกมาแบบั้นถ้าแกไปบอกใคร แกไอ้เด็กอกตัญญู เด็กไทยก็ถูกสอนมาแบบนี้เป็นธรรมดาว่า ความตัญญูเป็นสิ่งสำคัญ มันจะเป็นบาปฝั่งใจไปนาน เด็กก็เลยคิดว่าไม่บอกให้ใครรู้ และเด็กโชคร้ายคนนั้นก็ต้องถูกพ่อหรือย้ายข่มขืนซ้ำๆไปเรื่อย จนกว่าจะรู้ความจริงกัน และมีเด็กไม่กี่คนที่กล้าบอกคนอื่น แต่ปัญหาที่ตามมานั้นก็ยังไม่จบลงโดยดีที่ว่านั้นคือ เมื่อเด็กได้บอกใครไปแล้วให้ทราบแล้ว เอาเป็นคาละกัน พอครูทราบครูก็ต้องคุยกับเด็กมาเกิดยังไง พอครูทราบก็ต้องไปแจ้งความรหือคุยกับผู้ปกครองเด็ก สิง่ที่เกิดขึ้นละพูดไปทีละแนวละกัน อย่างแรกเป็นที่พ่อของเด็กแท้ๆ โดนพ่อข่มขืน และพอคนอื่นทราบข่าว เหตุการที่เกิดขึ้นมนั้น คิดว่ามันจะจบด้วยดีสินะ ไม่เลย ครอบครัวของพ่อเด็กได้ปิดกั้นข่าวเรื่องนี้ออกไป และช่วยกันปฏิเสธเรื่องแบบนี้เพื่อปิดบังความอับอายของตนและชื่อเสียง ของครอบครัวนั้น เขาไม่เคยสนใจเด็กเลย คิดแล้วเศร้าในความเป็นจริง ส่วนเรื่องที่สองนั้นจะออกเป็นแนวพ่อเลี้ยงมากกว่า โดยที่พ่อเลี้ยงได้ข่มขืนลูก และก็แนวข้างบนไล่ความไป และจะมาจุดที่ว่าจัดการยังไงกับพ่อเลี้ยง พอตำรวจจะมาจัดการพ่อเลี้ยง ปกติแม่เด็กก็จะมาอยู่ทางเด็กหรืออยู่ฝ่ายเด็ก แต่ไม่เคยดูจากรูปความเป็นจริงในสมัยนี้คงดูออก ตามความเป็นอยู่ แม่ของเด็กได้ไปเข้าข้างทางพ่อเลี้ยงแทนเด็ก ช่วยปฏิเสธหรือให้ความเท็จเพื่อไม่ให้ พ่อหรือผัวใหม่นั้นต้องจากเธอไป อีก เหมือนคนเก่า แม้จะย่อมให้ลูกสาวเราโดนแบบนั้นอีกก็ตาม อาจจะเคยดูในละครบางเรื่อง และมันก็เกิดขึ้นจริงแล้ว นี่อาจคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมแล้วแต่อย่าเพิ่งคิดอย่างงั้น มันยังมีอีกหลายเรื่องที่โหดกว่านี้เยอะ สังคมอันโหดร้าย
การแก้ปัญหานั้นที่จำได้ที่หมอเขาบอกเขาบอกว่า คุณพ่อควรให้ความสำคัญในการเลี้บงลูกแต่เด็กไม่ใช่สิ คุณแม่คุณให้คุณพ่อดูแลลูกด้วยเมื่อตอนให้นมป้อนข้าว เก็บขี้เยียว จะเป็นการสร้างให้พ่อรักลูกมากขึ้น ไม่งั้นเขาก็จะคิดว่าเหมือนไม่ใช่ลูกของเขา และไม่มีความผูกพัน จนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนญาติพี่น้องนั้นก็ควรให้ความสำคัญกับเด็กมากกว่า ความอัยอายของครอบครัว ไม่วั้นเด็กจะโตไปแบบไหนเราก็ไม่ทราบ และจะจำแต่เรื่องร้ายๆไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
จะพูดไปการแก้ปัญหามันมีมากมายแต่ทำไม่ทำมันมากกว่าเท่านั้นเอง
ใช้เวลาเขียนเร็วไป อาจจะมั่วอีกอย่างผมเหมือนมาบ่น ไม่ได้ตั้งใจเขียนบทความให้น่าอ่านเท่าไร เอาพอเป็นพิธีก็พอ ฝากให้คิด
สมัครไปแล้วครับ แต่เอาไว้อัพเพลงขึ้นบล็อกนี้ อิอิ
ตอบลบเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ซึมลึกและมีพลังทำลายล้างสูงนะผมว่า ส่งผลกระทบแบบเงียบๆแต่เหมือนสึนามิสำหรับคนที่ถูกกระทำ ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโว่ต่อๆไปอีกมากแค่ไหน แต่น่าเชื่อว่ามีมากแน่นอน
ตอบลบดังที่ปรากฎข่าวเมื่อเร็วๆนี้ ที่พ่อชาวออสเตรียข่มขืนลูกและขังไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน ข่มขืน 20 กว่าปี มีลูกตั้งหลายคน แล้วลองคิดดูเด็กที่เกิดมาจากการถูกข่มขืนกรณีนี้จะเป็นอย่างไร และจะสร้างผลอะไรต่อไปเมื่อพวกเขาโตขึ้น นี่เป็นสึนามิอย่างแท้จริง
การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก อย่างที่ คุณ Tanjen บอกว่า เรื่องเกิดขึ้นในครอบครัวก็มีการปกปิดไว้ ปัญหาก็ถูกปกปิด แก้ไขได้ยาก มีน้อยรายที่ปรากฏขึ้นตามสื่ออย่างพ่อเฒ่าออสเตรียรายล่าสุด แต่ปัญหาก็บานปลายไปแล้ว
นี่คงเป็รโศกนากกรรม แต่เป็นของปัจเจกชน หรือเป็นของสังคม หรือทั้งสองอย่าง ก็ไม่แน่ชัด.
ขอบคุณ คุณ kosolanusim ที่มาเยี่ยมชมบล็อกและแสดงความเห็นร่วมกัน บล็อกของคุณ kosolanusim น่าสนใจเหมือนกันไว้ผมจะไปอ่านทำความเข้าใจมั้ง ไม่ค่อยรู้เรื่องสื่อเท่าไร รู้สึกไม่ชอบสื่อบางสื่อด้วยซ้ำไป
ตอบลบ@myname666
ตอบลบน่าจะมีพอสมควรแต่ยังไม่แสดงออก(ยังไม่กระทำการใดๆ) ก็เป็นสิ่งที่ดี ส่วนข่าวที่ออกมานี้ก็ ไม่รู้จะช่วยให้ไม่ให้คนทำแบบนี้อีกหรือจะยิ่งไปทำให้ คนอยากแสดงออกมากขึ้น (บ้า) ยังไงก็ต้องดูต่อไปว่ามันจะมีมากขึ้นหรือไม่ อย่าให้เป็นอย่างงั้นเลยเถอะ