นายสมศักดิ์ พึ่งธรรมเกิดผล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดสื่อสารข้อมูล บมจ. กสท โทรคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า อยู่ระหว่างการทดลองให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายไฟฟ้า หรือ Broadband over Powerline (BPL) ในเชิงพาณิชย์ โดยได้เริ่มให้บริการในอาคาร Parkland Residence ของบริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด ไปแล้วตั้งแต่ 1 พ.ย. 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่า กสท จะเริ่มเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2551 อย่างแน่นอน และกำลังพิจารณาหาชื่อที่เหมาะสมสำหรับบริการดังกล่าวด้วย"เดิม กสท มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ใช้ชื่อว่า Hi-Net ซึ่งใช้เทคโนโลยี ADSL ซึ่งต้องลากสายทองแดงไปถึงลูกค้าทำให้ต้นทุนสูง ดังนั้นโครงการบรอดแบนด์พาวเวอร์ไลน์จึงเป็น จุดเริ่มต้นที่จะให้บริการที่เป็น last miles สำหรับ กสท ได้มากขึ้น โดยระหว่างนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเสนอค่าเช่าใช้โครงข่ายสายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และกับเจ้าของตึกต่างๆ อยู่ ดังนั้น ในไตรมาสแรกปีหน้า กสท จะเปิดบริการนี้อย่างเป็นทางการได้อย่างน้อย 10 ตึก ซึ่งจะเป็น BPL ready หรือพร้อมใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟฟ้าได้"
สำหรับการเช่าใช้สายไฟฟ้าสำหรับให้บริการดังกล่าวมีอยู่ 2 ส่วน คือ 1.ภายในอาคาร หรือคอนโดฯต่างๆ เพราะสายไฟฟ้าภายในอาคารถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของอาคาร เป็นพื้นที่ปิด ที่ต้องเจรจาเช่าใช้จากเจ้าของอาคาร และ 2.พื้นที่ในหมู่บ้านต่างๆ เพราะสายไฟฟ้าเป็นทรัพย์สินของการไฟฟ้านครหลวง และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในระดับนโยบายแล้ว
ส่วนการให้บริการไปถึงลูกค้าในแต่ละบ้านนั้น กสท จะประเมินจากความต้องการในการใช้งานในแต่ละพื้นที่เป็นหลัก เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะมีพื้นที่ให้บริการในรัศมี 200 เมตรจากอุปกรณ์ทวนสัญญาณ ดังนั้นหากจะให้มีพื้นที่บริการที่ครอบคลุมต้องมี การลงทุนอุปกรณ์ทบทวนสัญญาณเป็นจำนวนมหาศาลจึงจะเลือกลงทุนในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการมากพอและคุ้มที่จะลงทุน ทั้งนี้ในระยะแรกจะเน้นพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพก่อน เนื่องจากมีอาคารใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวนมาก รวมทั้งสะดวกในการควบคุมคุณภาพการให้บริการอีกด้วย
"ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เราทดลองให้บริการอยู่ในขณะนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ลูกค้าต้องการ แต่มีจุดเด่นคือลูกค้าได้ความเร็วเต็มจำนวน เช่น แพ็กเกจ 1 Mbps ก็จะได้ความเร็ว 1Mbps จริงๆ เพราะลากสายไฟเบอร์ออปติกไปจนถึงตึกนั้นแล้วเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แปลงสัญญาณผ่านสายไฟฟ้า ลูกค้าเมื่อต้องการใช้งานก็เสียบอุปกรณ์แปลงสัญญาณปลายทางแล้วเชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ตได้ทันที"
ทั้งนี้ กสท. จะพยายามตั้งราคาให้ได้ใกล้เคียงกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ เช่น ช่วงทดลองจะเก็บค่าบริการจากเจ้าของตึกในอัตราต่ำกว่าราคาที่เก็บกับคนใช้งาน เพื่อให้เจ้าของตึกเก็บค่าบริการจากผู้อยู่อาศัยได้ในราคา 590 บาท/เดือน
ตอนนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องอินเตอร์เน็ตในไทยคงจะพูดกันอีกยาวแต่เราไม่ยาว มันยาวเพราะว่าปัญหามันเยอะไม่สมบูรณ์แบบตามที่ควรจะเป็น ช่วงนี้ผมก็ประสพปัญหากับอินเตอร์เน็ต 56 Kb อยู่ไม่ใช่น้อย เพราะมันหลุดบ่อยมากจน ไม่อยากจะเล่นมันแล้ว ใครเคยเจอคงจะเป็นแบบผมไม่มากก็น้อย ปัญหาต่างๆในตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการทั้งนั้น เราไม่ค่อยได้มีส่วนในเรื่องทำให้เน็ตช้าเน็ตหลุดเลย จริงๆแล้วเราไม่มีส่วนทำให้เน็ตช้าเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะมีถ้ามีก็น่าจะช้าในบ้านของเราที่ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเครือข่ายเดียวกัน
แบบว่าคนหนึ่งโหลดบิทคนหนึ่งโหลดหนังผ่านเว็บธรรมดา คนหนึ่งเข้าเว็บธรรมดา คนเข้าเว็บเฉยๆคงช้าไปถนัดตา
ผมเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าวันนี้จะมาพูดเรื่อง "อินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟ" เรื่องนี้ผมก็เคยได้ยินมานานแล้วละ ตอนนั้นคิดว่าไม่คงอีกนานกว่าจะมาได้ใช้กัน ความคิดแบบนั้นก็เสือกเป็นจริงๆ
ต่มันก็ยังดีทีในเขต กรุงเทพฯ ได้ใช้กันส่วนเขตชนบทคงหมดสิทธิไม่ต้องไปคิดถึง ขนาดแค่ ADSL สายทองแดงธรรมดายังไม่มีน้ำยาจะลากเข้ามาเลย ถ้ามีมันก็ไม่ยอมแลกความเจริญกับ
เงินในกระเป๋ามันหรอก หวังจะให้ไปใช้ เน็ตผ่านดามเทียม กูก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น เอามาใช้มันก็ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแพงและช้า นอกจากจะเอาไปใช้ ในระบบการศึกษาเท่านั้นละ เน็ตพวกนี้
สำหรับบ้านๆต้องเน็ตสายทองแดง และ สายไฟที่กำลังจะเข้ามาและสายอื่นๆที่จะนำเข้ามาในอนาคตอันยาวนาน ไม่รู้จะอยู่ถึงวันนั้นหรือป่าว
การที่เราจะใช้ไอ้เน็ตผ่านสายไฟได้นิก็ คง้องมีสายไฟชนิดพิเศษที่มีีอะไรไม่รู้ละ อยู่ในนั้นแล้วก็ต่อไปที่บ้านของเรา และก็ต้องมี เรียกว่าเต้าละกัน เต้ารับสัญญาณหรือป่าวละเสียบเข้าไปใน
ปลักไฟ จำรูปไม่ได่แล้วแหะว่ามันเป็นยังไง (เดี๋ยววันหลังหาข้อมูลได้เยอะกว่านี้จะมาต่อ)
ความเป็นไปได้ที่จะได้ใช้ครบทุกภาคนั้นมีความเป็นไปได้แต่ครบุกจังหวัดมีความเป็นไปได้ยากอยู่คือกัน แต่เวลายังอีกยาวไกล กว่าจะใช้ได้ครบทุกบ้านในเขต กรุงเทพฯ ก็ถือว่างานหนักพอสมควร
แต่ถ้ามีเงินทุนเยอะกว่าน่าจะทำ ถ้าไปกู้นั้นกู้หนี้มา ผมว่าไม่ควรทำอย่างยิ่งเลย ประเทศติดหนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพราะใคร... อันนี้กูก็จำไม่ได้และไม่อยากจำมัน
หมดอารมณ์ละเลิกพอๆ ติดไว้ก่อนวันหน้ามาแสรดดดดดดดดดดด ต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น